ด้านรถยนต์

การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ)

การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ(พ.ร.บ) นั้นเป็นประกันภัยที่รถยนต์ทุกคันที่จดทะเบียนกับการขนส่งทางบกนั้น ต้องมีตามกฏหมาย เพื่อที่จะให้คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ที่ได้รับการบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิตจากการรถหรือการใช้รถ

เจ้าของรถยนต์ส่วนใหญ่ เลือกที่จะซื้อประกันภัยการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ(พ.ร.บ) นี้ควบคู่ไปกับการประกันภัยภาคสมัครใจ เพื่อที่จะความคุ้มครองความเสียหายให้กับตัวรถยนต์ของตัวเอง รถยนต์คู่กรณี ทรัพย์สินต่างๆของบุคคลภายนอก รวมถึงคุ้มครองการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตของบุคคลในรถ และบุคคลภายนอกในส่วนเกินของกรมธรรม์ พ.ร.บ นั้นเอง

ใครบ้างที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ(พ.ร.บ) นี้ ?

  • ทุกคนที่ได้รับการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากอุบัติเหตุจากรถยนต์คันที่มีประกันภัยนี้ เช่น ผู้ขับขี่, ผู้โดยสาร, บุคคลภายนอกรถ, คนเดินเท้า, ฯลฯ

กรมธรรม์การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ(พ.ร.บ) นี้คุ้มครองอะไรบ้าง ?

  • ค่าเสียหายเบื้องต้น

    บริษัทฯ จะชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัย หากเสียชีวิต หรือบาดเจ็บ โดยไม่ต้องรอการพิสูจน์ความรับผิด ซึ่งจะต้องชดใช้ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับการร้อขอ โดยจะชดใช้ตามตารางเปรียบเทียบข้างล่างนี้

  • ส่วนเกินของค่าเสียหายเบื้องต้น

    การชดใช้ส่วนเกินค่าเสียหายเบื้องต้นนั้น จะต้องรอการพิสูจน์ฝ่ายผิด และฝ่ายถูกของการเกิดอุบัติครั้งนั้นๆ โดยฝ่ายผิดจะทำการชดใช้ให้แก่ผู้เสียชีวิต หรือทายาท หรือการบาดเจ็บ ในส่วนเกินของค่าเสียหายเบื้องต้น

ตารางเปรียบเทียบ

ผู้ประสบเหตุค่าเสียหายเบื้องต้นส่วนเกินของค่าเสียหายเบื้องต้น
ผู้ประสบอุบัติเหตุเป็นผู้ขับขี่ในรถที่เอาประกัน
  • 1. การบาดเจ็บ / ค่ารักษาพยาบาล ต่อร่างกายหรืออนามัย ไม่เกิน 15,000 บาท
  • 2. การเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 35,000 บาท
  • เสียชีวิตหลังจากรักษาพยาบาลไม่เกิน 50,000 บาท
-
ผู้ประสบอุบัติเหตุอื่นๆ (ยกเว้นผู้ขับขี่ในรถที่เอาประกัน)
  • 1. การบาดเจ็บ / ค่ารักษาพยาบาล ต่อร่างกายหรืออนามัย ไม่เกิน 15,000 บาท
  • 2. การเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 35,000 บาท
  • เสียชีวิตหลังจากรักษาพยาบาลไม่เกิน 50,000 บาท
  • 1. การบาดเจ็บ / ค่ารักษาพยาบาล ต่อร่างกาย หรืออนามัย ไม่เกิน 50,000 บาท (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น)
  • 2. การเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 300,000 บาท (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น)
  • เสียชีวิตหลังจากรักษาพยาบาลไม่เกิน 300,000 บาท (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น)
  • 3. ค่าชดเชยรายวันๆละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน สำหรับกรณีเข้ารักษาพยาบาลในฐานะคนไข้ใน

*หมายเหตุ : ส่วนเกินค่าเสียหายเบื้องต้นนี้ จำนวนเงินคุ้มครองสูงสุดสำหรับ 1), 2) และ 3) รวมกันไม่เกิน 204,000 บาท ต่อหนึ่งคน และรวมกันไม่เกิน 5,000,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง(สำหรับรถยนต์นั่งหรือรถบรรทุกผู้โดยสารที่ไม่เกินเจ็ดคน) และไม่เกิน 10,000,000 บาทต่ออุบัติแต่ละครั้ง (สำหรับรถยนต์ทีมีที่นั่งเกินเจ็ดคนหรือรถบรรทุกผู้โดยสารรวมทั้งผู้ขับขี่เกินเจ็ดคน)

อย่างไรก็ตามการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์พรบ.นี้จะต้องพิจารณาความผิดตามกฏหมายด้วย

ผลพิสูจน์ผู้ประสบอุบัติเหตุเป็นบุคคลภายนอกรถที่เอาประกันภัยผู้ประสบอุบัติเหตุเป็นบุคคลภายในรถที่เอาประกันภัยผู้ประสบอุบัติเหตุเป็นผู้ขับขี่รถที่เอาประกันภัย
ฝ่ายผิด
  • 1. การบาดเจ็บ / ค่ารักษาพยาบาล ต่อร่างกาย หรืออนามัย ไม่เกิน 50,000 บาท (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น)
  • 2. การเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 300,000 บาท (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น)
  • เสียชีวิตหลังจากรักษาพยาบาลไม่เกิน 300,000 บาท (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น)
  • *3. ค่าชดเชยรายวันๆละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน สำหรับกรณีเข้ารักษาพยาบาลในฐานะคนไข้ใน
  • 1. การบาดเจ็บ / ค่ารักษาพยาบาล ต่อร่างกาย หรืออนามัย ไม่เกิน 50,000 บาท (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น)
  • 2. การเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 300,000 บาท (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น)
  • เสียชีวิตหลังจากรักษาพยาบาลไม่เกิน 300,000 บาท (รวมค่าเสียหายเบื้องต้น)
  • *3. ค่าชดเชยรายวันๆละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน สำหรับกรณีเข้ารักษาพยาบาลในฐานะคนไข้ใน
  • 1. การบาดเจ็บ / ค่ารักษาพยาบาล ต่อร่างกาย หรืออนามัย ไม่เกิน 15,000 บาท
  • 2. การเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 35,000 บาท
  • เสียชีวิตหลังจากรักษาพยาบาลไม่เกิน 50,000 บาท
  • *3. ค่าชดเชยรายวันๆละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน สำหรับกรณีเข้ารักษาพยาบาลในฐานะคนไข้ใน
ฝ่ายถูก
  • 1. การบาดเจ็บ / ค่ารักษาพยาบาล ต่อร่างกาย หรืออนามัย -ไม่คุ้มครอง
  • 2. การเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร -ไม่คุ้มครอง
  • สียชีวิตหลังจากรักษาพยาบาล -ไม่คุ้มครอง
  • 1. การบาดเจ็บ / ค่ารักษาพยาบาล ต่อร่างกาย หรืออนามัย ไม่เกิน 15,000 บาท
  • 2. การเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 35,000 บาท
  • เสียชีวิตหลังจากรักษาพยาบาลไม่เกิน 50,000 บาท
  • 1. การบาดเจ็บ / ค่ารักษาพยาบาล ต่อร่างกาย หรืออนามัย ไม่เกิน 15,000 บาท
  • 2. การเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 35,000 บาท
  • เสียชีวิตหลังจากรักษาพยาบาลไม่เกิน 50,000 บาท

*หมายเหตุ : ส่วนเกินค่าเสียหายเบื้องต้นนี้ จำนวนเงินคุ้มครองสูงสุดสำหรับ 1), 2) และ 3) รวมกันไม่เกิน 204,000 บาท ต่อหนึ่งคน และรวมกันไม่เกิน 5,000,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง(สำหรับรถยนต์นั่งหรือรถบรรทุกผู้โดยสารที่ไม่เกินเจ็ดคน) และไม่เกิน 10,000,000 บาทต่ออุบัติแต่ละครั้ง (สำหรับรถยนต์ทีมีที่นั่งเกินเจ็ดคนหรือรถบรรทุกผู้โดยสารรวมทั้งผู้ขับขี่เกินเจ็ดคน)

การประกันภัยภาคสมัครใจ  

การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัย และรถยนต์คู่กรณี ทรัพย์สินบุคคลภายนอก ความรับผิดตามกฏหมายต่อบุคคลภายนอกรวมถึงผู้โดยสาร ในส่วนที่เกินการประกันภัยภาคบังคับ(พรบ.)

ความคุ้มครองนั้นจะระบุวงเงินความคุ้มครองตามตารางกรมธรรม์ในส่วน การสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก, ความเสียหายต่อตัวรถยนต์ที่เอาประกันภัยเอง ในกรณีเสียหายจากการชน สูญหาย ไฟไหม้ (ขึ้นอยู่กับประเภทกรมธรรม์) รวมถึงการเสียชีวิต บาดเจ็บของผู้โดยสาร และวงเงินประกันตัวผู้ขับขี่

การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร?

ความคุ้มครองประเภท 1ประเภท 2ประเภท 3ประเภท 2 พิเศษประเภท 3 พิเศษ
1) ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
- ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยเฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พรบ.
- ความเสียหายต่อทรัพย์สิน
2) รถยนต์เสียหาย สูญหาย ไฟไหม้
- ความเสียเนื่องจากการชน  **
- สูญหาย/ไฟไหม้  
3) ความคุ้มครองเพิ่มเติม (เอกสารแนบท้าย)
- อุบัติเหตุส่วนบุคคล เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร (ผู้ขับขี่ 1 คน และผู้โดยสาร....คน)
- ค่ารักษาพยาบาล (ผู้ขับขี่ 1 คน และผู้โดยสาร....คน)
4) การประกันตัวผู้ขับขี่

*หมายเหตุ : คุ้มครองความเสียหายเนื่องจากการชน ที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะที่สามารถจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกเท่านั้น

การประกันภัยขยายการรับประกันเครื่องยนต์  

เป็นการขยายระยะเวลาการรับประกันรถยนต์ของผู้ผลิตรถยนต์รายนั้นๆ ในความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดกับระบบของเครื่องยนต์ กลไก หรือระบบไฟฟ้าต่างๆในรถยนต์ โดยทั่วไปจะเป็นการขยายออกไปอีก 1 ถึง 3 ปี ซึ่งอาจมีการกำหนดเลขระยะทางเป็นตัวกำกับเอาไว้ด้วย

โดยส่วนให้กรมธรรม์จะไม่คุ้มครองการเสื่อมสภาพโดยธรรมชาติ, การขาดการบำรุงรักษาตามที่ผู้ผลิตแนะนำ, การขับขี่โดยประมาท, ความเสียหายที่คุ้มครองในกรมธรรม์รถยนต์, เป็นต้น การชดใช้ในกรมมธรรม์นี้จะเป็นการจ่ายโดยบริษัทประกันภัยสำหรับค่าซ่อม หรือเปลี่ยนอะไหล่ต่างๆ ในระยะเวลาที่เอาประกันภัย

การประกันภัยส่วนต่างมูลค่ารถยนต์ กับวงเงินสินเชื่อ  

ป็นกรมธรรม์ที่ออกแบบเพื่อให้ความคุ้มครองส่วนต่างระหว่างมูลค่ารถยนต์เมื่อเกิดความเสีญหายกับจำนวนหนี้ที่เจ้าของรถยนต์ยังคงค้างอยู่ กรมธรรม์จะให้ความคุ้มครองก็ต่อเมื่อรถยนต์คันที่เอาประกันภัยเกิดสูญหาย หรือประสบอุบัติเหตุจนเกิดความเสียหายทั้งคันมีค่าซ่อมมากกว่า 70% ของทุนประกันรถยนต์ (Total Loss) และเงินที่ได้รับการชดใช้การประกันภัยรถยนต์นี้ไม่เพียงพอกับมูลหนี้ของการเช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าว

ตัวอย่าง : ท่านซื้อรถยนต์ราคา 2,000,000 บาท และได้มีการวางเงินดาว์นไว้ที่ 300,000 บาท ค่างวดชำระต่อเดือนอยู่ที่ 20,000 บาท 6 เดือนผ่านไปรถคันดังกล่าวเกิดถูกโจรกรรมสูญหายไป บริษัทประกันภัยรถยนต์ได้ชดใช้วงเงินที่เอาประกันรถยนต์คันดังกล่าวหรือราคาในขณะนั้นที่ 1,200,000 บาท ดังนั้นรวมเงินดาว์นและงวดที่ผ่อนชำระมา 6 เดือนอยู่ที่ 420,000 บาท เพราะฉะนั้นท่านเหลือมูลหนี้ที่ต้องผ่อนชำระอยู่ที่ 380,000 บาท ดังนั้นการประกันภัยส่วนต่างมูลค่ารถยนต์ กับวงเงินสินเชื่อจะชดใช้ที่ 380,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างวงเงินประกันภัยรถยนต์ (1,200,000 บาท) และมูลค่าสินเชื่อที่เหลืออยู่ (1,580,000 บาท)

การประกันภัยส่วนต่างมูลค่ารถยนต์ กับวงเงินสินเชื่อนี้เหมาะกับ :

  • เงินดาว์นต่ำ
  • ระยะการผ่อนชำระนาน
  • รถมีมูลในตลาดตกเร็ว
  • ดอกเบี้ยเงินกู้สูง


    บริษัทแชมป์ อินชัวร์ โบรคเกอร์
    สำนักงานใหญ่ 6/107 ซอย บรมราชชนนี 74
    แขวง ศาลาธรรมสพน์     เขต ทวีวัฒนา
     กรุงเทพมหานคร 10170

    เบอร์โทรศัพท์ (02) 888 6540-1
    เบอร์โทรสาร (02) 888 6542
    อีเมล support@champinsure.com

   © All rights reserved. : Champ Insure Broker .


Line ID:@champinsure


   Dashboard Administrator